แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - tomyumnew

หน้า: [1]
1
อาการระหว่าง "ซึมเศร้า" กับ "ไบโพล่าร์"
ผลบอล ย้อนหลังโรคซึมเศร้า คือโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากความผิดปกติของสารเซโรโทนินในสมองมีปริมาณลดลง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการทางร่างกายจิตใจและความคิด รู้สึกท้อแท้ หงอยเหงา เบื่อหน่าย ไม่สนุกสนานกับชีวิต นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นกลางดึก ฝันร้ายบ่อยครั้ง กระทั่งส่งผลกระทบให้ความสามารถในการทำงานลดลง และอาจตกอยู่ในภาวะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าจนอยากฆ่าตัวตายได้ แต่จุดเด่นของโรคซึมเศร้าอยู่ที่อารมณ์เบื่อเศร้าจะค่อนข้างชัดเจน



แต่สำหรับ โรคไบโพล่าร์ ผู้ป่วยโรคนี้จะมีอารมณ์สองขั้ว คือภาวะแมเนียและภาวะซึมเศร้า กล่าวคือไบโพลาร์จะมีลักษณะที่มีอารมณ์ช่วงหนึ่ง สนุกสนานครื้นเครง รื่นเริง สลับกับอารมณ์ซึมเศร้าอีกช่วงหนึ่ง เราจึงเรียกไบโพลาร์ว่าโรคเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บางคนอาจจะเรียกว่าโรคอารมณ์แปรปรวน หรือโรคคนสองบุคลิกนั่นเอง

 

ความแตกต่างระหว่างโรคซึมเศร้ากับโรคไบโพล่าร์
จุดเด่นที่ทำให้โรคซึมเศร้าและโรคไบโพล่าร์มีความแตกต่างกันก็คือ ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจะรู้สึกเบื่อหน่ายและเศร้าแทบจะตลอดเวลา ขณะที่ผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์อาจมีภาวะซึมเศร้า สลับกับอารมณ์ร่าเริงเกินปกติ บุคลิกของผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์จะสลับสับเปลี่ยนกันเหมือนเป็นคนละคน เช่น เราอาจเคยเห็นเพื่อนหรือคนที่อยู่รอบข้างที่อยู่ดีๆ ก็ขยันทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย บางคนเวลาพูดคุยด้วยจะสังเกตว่าพูดมาก พูดเร็ว แต่ดูกระจัดกระจายไม่ปะติดปะต่อ เปลี่ยนเรื่องเร็วจนตามไม่ทัน บางคนที่เป็นมากอาจมีความคิดหลงผิดว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ มีพลังอำนาจวิเศษเหนือธรรมชาติ หรือมีอารมณ์หงุดหงิดมาก ความอดทนต่ำหุนหันพลันแล่น อาจถึงขั้นอาละวาดทำร้ายคนหรือสิ่งของได้

 

วิธีสังเกตอาการระหว่างโรคซึมเศร้ากับโรคไบโพล่าร์ UFABET
อาการของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า : จะรู้สึกกลุ้มใจ ซึมเศร้าทุกวันและเกือบจะทั้งวัน รู้สึกเบื่อกับทุกอย่างรอบตัวเป็นประจำ ไม่อยากสังสรรค์หรือออกสังคม เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ กระวนกระวายหรือมีอาการซึมๆ เนือยๆ ไร้เรี่ยวแรง รู้สึกอ่อนเพลียง่าย เหนื่อยง่าย รู้สึกไร้ค่า ร้องไห้ง่ายโดยไม่มีสาเหตุ มีอาการใจลอย ไม่มีสมาธิ หมกมุ่นอยู่แต่เรื่องเดิมๆ เบื่อชีวิต มีบางช่วงที่รู้สึกอยากตาย เป็นต้น

อาการของผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์ : มักเกิดอาการซึมเศร้าครั้งแรกในช่วงวัยรุ่นหรือวัยเรียน อีกทั้งยังมีอาการเป็นพักๆ เดี๋ยวเศร้าเดี๋ยวปกติวนไปมาหลายครั้ง ความคิดช้าลง พฤติกรรมต่างๆ ก็ช้าลงเช่นกัน รู้สึกโดดเดี่ยว ขาดกำลังใจ เหมือนกลายเป็นคนไร้ค่า มองโลกในแง่ร้ายไปหมด รู้สึกว่าโลกไม่สดใส ไม่มีอะไรน่าสนุก ไม่ร่าเริง มีอาการวิตกกังวลอย่างรุนแรง ตกอยู่ในสภาวะหลงผิด อารมณ์ผิดปกติจนอาจควบคุมความประพฤติของตัวเองไม่ได้ เป็นต้น

 

การรักษาโรคซึมเศร้าและโรคไบโพล่าร์
ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรับการรักษา ในบางรายมีความจำเป็นจะต้องให้ยาปรับอารมณ์ให้คงที่ร่วมด้วย อย่างไรก็ตามคนที่เป็นโรคไบโพล่าร์ ส่วนใหญ่เมื่อได้รับประทานยา อาการจะดีขึ้นจนเป็นปกติ และสามารถทำงาน ใช้ชีวิตปกติได้เหมือนไม่เคยป่วยมาก่อน

ที่สำคัญคือระวังการกำเริบของโรค เพราะผู้ป่วยไบโพล่าร์ ช่วงเมเนียมักไม่คิดว่าตัวเองป่วย หากอาการดีขึ้นก็มักหยุดยาเอง ซึ่งโรคจะกำเริบได้หากรับประทานยาไม่สม่ำเสมอ รวมถึงการพักผ่อนไม่เป็นเวลา การดื่มแอลกอฮอล์และความเครียด

ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคนี้จึงไม่ควรทำงานที่พักผ่อนไม่เป็นเวลา เช่น งานที่ต้องอยู่เวรเป็นกะ และควรหลีกเลี่ยงการทำงานที่สร้างความเครียดหรือกดดันมากเกินไป อย่างไรก็ตาม อาการต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น บางครั้งอาจเกิดจากโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรคไบโพลาร์ก็ได้ ดังนั้นการไปพบจิตแพทย์จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดผลบอล ย้อนหลัง

:) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :)https://sportbet.site123.me/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5-%E0%B8%A2-%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5-%E0%B8%87/%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB-%E0%B9%80%E0%B8%A1-%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2
https://sportbet.site123.me/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5-%E0%B8%A2-%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5-%E0%B8%87/%E0%B8%A5-%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A3-%E0%B8%9E-%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%AE-%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB-%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B8%84-%E0%B8%9F-%E0%B8%95%E0%B8%97-%E0%B8%99%E0%B8%89%E0%B8%B0%E0%B8%AE-%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3-%E0%B8%AA%E0%B8%9F-%E0%B8%A5%E0%B8%94
https://sportbet.site123.me/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5-%E0%B8%A2-%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5-%E0%B8%87/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5-%E0%B8%A2-%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5-%E0%B8%87-%E0%B9%84%E0%B8%A1-%E0%B8%84-%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%99-%E0%B8%B2-%E0%B8%AD-%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%9C-%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A7-%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%99-%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A1-%E0%B8%99%E0%B8%95-%E0%B8%AD%E0%B8%AA-%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2
https://sportbet.site123.me/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5-%E0%B8%A2-%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5-%E0%B8%87/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5-%E0%B8%A2-%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5-%E0%B8%87
https://sportbet.site123.me/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5-%E0%B8%A2-%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5-%E0%B8%87/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5-%E0%B8%A2-%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5-%E0%B8%87-unai-emery-%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%84-%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AB-%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%81-%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81-%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA-%E0%B8%A1%E0%B8%9E-%E0%B8%99%E0%B8%98-%E0%B8%81-%E0%B8%9A-mesut-ozil

2
พูดคุยซักถาม / เลือดกำเดา คืออะไร?
« เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2018, 12:27:18 am »
สมัคร ufabetเลือดกำเดา คืออะไร?
เลือดกำเดา คือเลือดที่ไหลออกมาจากโพรงจมูก ไม่ว่าจะเป็นข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง เกิดจากเส้นเลือดภายในโพรงจมูกแตก ที่อาจเป็นเพราะเส้นเลือดในโพรงจมูกเปราะบางแตกง่ายด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น อาการที่เปลี่ยน (ร้อนเกินไป, หนาวเกินไป, แห้งเกินไป) สั่งน้ำมูกแรงเกินไป ผลข้างเคียงจากอาการภูมิแพ้ ความดันโลหิตสูง หรือเกิดจากการแคะ แกะ เกาในโพรงจมูกอย่างรุนแรง หรือเกิดอุบัติเหตุในบริเวณที่ใกล้เคียงกับจมูก เป็นต้น

 

เลือดกำเดา มีกี่ชนิด?
ทราบหรือไม่ว่าเลือดกำเดาแบ่งออกเป็น 2 ชนิด

เลือดที่ออกจากโพรงจมูกด้านหน้า มักเกิดขึ้นกับคนทั่วไป เกิดจากเส้นเลือดบริเวณจมูกในส่วนหน้าแตก ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ผู้ป่วยสามารถทำให้เลือดกำเดาหยุดไหลได้เอง

เลือดที่ออกจากโพรงจมูกส่วนหลัง เกิดจากเส้นเลือดบริเวณโพรงจมูกด้านหลังแตก หรือส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปในโพรงจมูก จนอาจทำให้มีเลือดไหลลงไปในลำคอด้วย มักเกิดกับผู้สูงวัย หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคอันตรายร้ายแรงบางอย่าง ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน
 

เลือดกำเดาไหลแบบไหน อันตราย
หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

เลือดกำเดาไหลที่ด้านหลังโพรงจมูกจนไหลเข้าไปในลำคอ

เลือดกำเดาไหลไม่หยุดแม้ผ่านไปมากกว่า 20 นาที

เลือดกำเดาไหลซ้ำอีกหลายครั้ง

เวียนศีรษะ หน้ามืด

กระอักเลือด หรืออาเจียนเป็นเลือด

มีผื่นขึ้นตามตัว

มีไข้สูง (มากกว่า 5 องศาเซลเซียส)
 

วิธีหยุดเลือดกำเดาไหลด้วยตัวเองสมัคร ufabet
นั่งนิ่งๆ บนเก้าอี้หรือพื้น เอนตัวไปข้างหน้า และอาจก้มหน้าเพียงเล็กน้อย ไม่ต้องเงยหน้า ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้บีบจมูก แล้วหายใจทางปากราว 10 นาทีแล้วค่อยปล่อยนิ้ว หากเลือดกำเดายังไม่หยุดไหล ให้ทำตามวิธีนี้อีกครั้ง

ไม่นอนราบ หากมีเลือดไหลลงคอให้บ้วนเลือดออกมา ไม่กลืนลงไป เพราะเลือดกำเดาอาจไหลเข้าไปในกระเพาะอาหารจนทำให้เกิดอาการอื่นๆ ตามมาได้ เช่น อาเจียน เป็นต้น

อาจใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หรือน้ำแข็งวางบริเวณสันจมูกขณะบีบจมูกไปด้วยก็ได้

หากเลือดกำเดายังไม่หยุดไหล ให้รับพบแพทย์โดยด่วน
:) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :) :)https://wp.me/panlRC-2q
https://wp.me/panlRC-2t
https://wp.me/panlRC-2w
https://wp.me/panlRC-2z
https://wp.me/panlRC-2C


3

7 ข้อที่ทำให้ "สมรรถภาพทางเพศถดถอย"
สมัครufabetเรื่องราวเละสาระดีๆ สำหรับบทความจัดให้ผู้ชายทุกคนเลย เพราะเรากำลังจะพูดถึงเรื่องสมรรถภาพทางเพศ แม้คุณจะเชื่อว่าตัวเองดำเนินชีวิตไปตามปกติ โดยที่ไม่ได้เผชิญกับปัจจัยเสี่ยงอะไร แต่บางกิจกรรมที่เราทำในชีวิตก็เสี่ยงทำให้คุณเสื่อมสรรถภาพทางเพศได้ ดังนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าว่าพฤติกรรมที่ว่านั้นมีอะไรบ้างเพื่อที่คุณจะได้หาทางหลีกเลี่ยง



 1. เคร่งเครียดกับชีวิตเกินไป

ชีวิตคนเรานั้นมีสิ่งต่างๆ มากมายที่น่าสนใจ คุณไม่ควรเอาความคิดของตัวเองเข้าไปยึดติดกับอะไรให้มากจนเกิดความเครียด ปวดสมอง และไม่ดีต่อสุขภาพจิต ไม่เพียงเท่านั้นเครียดเกินไปยังทำให้น้องชายหดตัวและเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วยนะ ที่เป็นเช่นนั้นก็เมื่อเวลาที่คุณเครียดฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายจะไม่สมดุล ร่างกายของคุณจึงรวนเกิดความปั่นป่วนไปทั้งระบบ ดังนั้นทางที่ดีหากคุณรู้ตัวเองว่าช่วงไหนเครียดเกินไปคงต้องหาวิธีการผ่อนคลาย รีแล็กซ์เพื่อใช้ชีวิตให้เกิดความสมดุล ซึ่งจะส่งผลดีต่อสภาพร่างกาย จิตในและสมรรถภาพทางเพศของคุณด้วย

2. กระบี่ไม่ค่อยได้ออกจากฝัก

หมายความว่าคุณจะต้องหาโอกาสได้วาดลวดลายบนเตียงจริงๆ บ้าง อยากให้ดาบคมก็ต้องหมั่นเอาออกมาลับคม เรื่องบนเตียงนั้นก็เช่นเดียวกัน หากคุณต้องการมีสมรรถภาพทางเพศที่ดีก็ต้องใช้งานน้องชายคุณประกอบกิจกรรมประกอบจังหวะบ้าง ซึ่งเรื่องนี้เราไม่ได้พูดเอาเองนะเพราะมีงานวิจัยทางการแพทย์ออกมายืนยันแล้วว่า ผู้ชายที่มีเซ็กซ์น้อยกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์มีความเสี่ยงที่จะหย่อนสมรรถภาพทางเพศมากกว่าผู้ชายที่มีเซ็กซ์ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์หลายเท่าเลยนะครับ

3. นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ

ขนาดเครื่องจักรกลใหญ่ที่ทรงพลังยังต้องมีกำหนดพักเครื่องเพื่อทำการ maintenance แล้วร่างกายของมนุษย์เราที่แสนเปราะบางจะไม่ต้องการการพักผ่อนได้อย่างไร เมื่อเป็นเช่นนั้นธรรมชาติของร่างกายคนเราจึงได้กำหนดให้ต้องมีการนอนหลับพักผ่อนทุกคนในระยะเวลาที่เหมาะสม 7-8 ชั่วโมง โดยช่วงที่ร่างกายนอนหลับนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายใช้พลังงานน้อยที่สุด ร่างกายจะมีการซ่อมแซมและบำรุงตัวเองจากสารอาหารต่างที่เราได้รับประทานเข้าไป รวมถึงการปรับระดับฮอร์โมนต่างๆให้สมบูรณ์ เมื่อตื่นมาร่างกายของเราจะมีความพร้อมในทุกๆด้านรวมถึงเรื่องสมรรถภาพทางเพศด้วย หากใครทำตัวฝืนธรรมชาติ พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลาย่อมส่งผลเสียต่อระบบต่างๆของร่างกายรวมถืงระบบสืบพันธุ์หรือสมรรถภาพทางเพศด้วยไม่มากก็น้อย

4. สูบบุหรี่จัด

ไม่น่าแปลกใจที่ทำไม่เหล่าบรรดาสิงห์อมควันทั้งหลายจะพากันตบเท้าเข้าสมาคมกระบอกปืนใหญ่หน้ากระทรวงกลาโหม ก็ก่อนคุณจะซื้อบุหรี่มาสูบหน้าซองบุหรี่ก็บอกถึงโทษและพิษภัยของมันอยู่แล้วแต่คุณเลือกที่จะไม่ใส่ใจเอง ที่บุหรี่ทำให้คนที่สูบเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ก็เพราะมีนิโคตินซึ่งเป็นสารเสพติดที่ออกฤทธิ์ขันขวางการไหลเวียนของโลหิตที่ดีในร่างกาย และเมื่อเลือดไหลลงมาเลี้ยงน้องชายคุณไม่สะดวกเวลาที่จะประกอบกิจมันจะแข็งได้อย่างไร นอกจากนี้หากคุณยังสูบหนักต่อไปไม่เลิกในอนาคตก็มีโอกาสที่อัณฑะที่เป็นโรงงานผลิตน้ำเชื้ออสุจิของคุณจะเสื่อมสภาพ เมื่อโรงงานพันคุณก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นหมันสืบพันธุ์ไม่ได้เลยนะ



Advertisement
5. นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาวางไว้ใกล้ๆน้องชาย

มีการศึกษาวิจัยไม่น้อยพบว่าเครื่องมือหรือุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาต่างๆจะปล่อยคลื่นแม่เหล็กบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อระบบสืบพันธุ์ของคนเราได้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค แล็ปท็อป พีซี แท็บเล็ต หรือแม้แต่สมาร์ทโฟน เป็นต้น แม้ว่างานวิจัยในเรื่องนี้จะกำลังเป็นที่โต้เถียงในเรื่องความน่าเชื่อถือ แต่พื่อปลอดภัยไว้ก่อน ป้องกันความเสี่ยงให้กับน้องชายสุดที่รักก็ควรเก็บอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์เหล่านี้ไว้ห่างๆน้องชายคุณดีกว่า

6. ไม่ออกกำลังกาย

ทุกคนก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ‘การออกกำลังกาย’ นั้นเป็นยาวิเศษ มีคุณทั้งในเรื่องการป้องกันสุขภาพร่างกายของเราให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บแล้วยังช่วยเยียวยารักษาโรคได้ด้วย เช่นเดียวกับในเรื่องสมรรถภาพทางเพศ คนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำจะมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ระบบหมุนเวียนโลหิตพร้อม ระบบฮอร์โมนต่างๆก็พร้อม ฮอร์โมนเพศร่างกายก็จัดมาให้อย่างครบครับ เวลาที่ต้องการทำกิจกรรมประกอบจังหวะจึงแทบจะไม่มีอุปสรรคอะไรเลย เมื่อกายพร้อม ใจพร้อม กระเจี๊ยวพร้อมขนาดนี้ นี่คือผลลัพธ์ที่ได้จากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งผลลัพธ์นี้จะเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับคันที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายนะครับ

7. การใช้ยาบางชนิด

หากคุณมีความจำเป็นต้องใช้ยาบางตัวเพื่อรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของคุณฤทธิ์ของตัวยาดังกล่าวอาจส่งผลเสียต่อสมรรถภาพทางเพศได้ เช่น ยาลดความดัน ยารักษาโรคซึมเศร้า ยารักษาสิวบางชนิด และยารักษาโรคเบาหวาน เป็นต้น ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะตัวยาดังกล่าวอาจมีฤทธิ์ไปลดประสิทธิภาพของระบบไหลเวียนโลหิต หรือไปกดการหลั่งฮอร์โมน ส่งผลให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือไม่มีอารมณ์ทางเพศได้ และก่อนใช้ยาพวกนี้แพทย์ก็จะแจ้งให้ทราบถึงผลข้างเคียงอยู่แล้วดังนั้นการใช้ยาดังกล่าวก็ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด สมัครufabet

และนี่ก็คือ 7 พฤติกรรมที่เป็นความเสี่ยงที่ทำให้คุณเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เมื่อได้ทราบแล้วอะไรที่หลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง

8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8)https://wp.me/pa7d8C-9f
https://wp.me/pa7d8C-9n
https://wp.me/pa7d8C-9u
https://wp.me/p9EyG2-o8
https://wp.me/p9EyG2-oh

4
พูดคุยซักถาม / อาการ ปวดคอและไหล่
« เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2018, 10:19:20 pm »
สมัคร ufabet
อาการ ปวดคอและไหล่ (NSP-Neck and Shoulder Pain) เป็นอาการที่พบได้บ่อยมาก ในกลุ่มผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ แต่ในเมื่อคนทำงานไม่มีทางเลือก เพราะต้องนั่งทำงานแบบนั้นทั้งวัน จะทำยังไงที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดพวกนี้ดี?




ทำไมการทำงานหน้าคอมถึงทำให้ปวดคอและไหล่
ปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งในการทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ ที่พบบ่อยจากหลายๆ การวิจัยก็คือ ปัจจัยเกี่ยวกับการทำงาน อย่างเช่น การเคลื่อนไหวซ้ำๆ แรงกด การวางท่าทางที่ไม่สบายหรือไม่เป็นธรรมชาติของแขนขา เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ เป็นสิ่งที่พบบ่อยในคนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นประจำ เนื่องจากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ร่างกายส่วนบนจะต้องหยุดนิ่ง โดยคอจะทำหน้าที่พยุงศีรษะ ซึ่งมีน้ำหนักประมาณหนึ่งในเจ็ดส่วนของน้ำหนักร่างกายทั้งหมด เพื่อให้ร่างกายอยู่นิ่งๆ การเกร็งกล้ามเนื้อคออย่างต่อเนื่อง เพื่อพยุงให้ศีรษะอยู่ตำแหน่งนี้ ทำให้ลดการไหลเวียนของเลือดมายังกล้ามเนื้อ นำไปสู่ความอ่อนล้าและความเสียหายของกล้ามเนื้อ การเกร็งนี้ยังทำให้เกิดแรงกดต่อเส้นประสาทในคอ ทำให้เกิดอาการปวดหลังและด้านข้างของศีรษะได้ด้วย นอกจากนี้ถ้านั่งอยู่ในท่าที่ไม่สบาย หรือมุมมองหน้าจอที่ไม่ดีพอ ตำแหน่งของเก้าอี้และโต๊ะที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เนื้อเยื่ออ่อนหดเกร็ง เกิดการตึงที่กล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอลง และรู้สึกถึงความอ่อนล้า มีการบันทึกไว้ในงานวิจัยบางชิ้นว่า อาการตึงเครียดของกล้ามเนื้อและความเครียดโดยรวม ทำให้โครงสร้างร่างกายเกิดอาการหดเกร็ง และเป็นสาเหตุของอาการเจ็บปวด อีกปัญหาหนึ่งที่พบบ่อยก็คือ ท่านั่งที่ไม่เหมาะสม อย่างการนั่งหลังค่อม โดยหัวยื่นออกไปข้างหน้ามากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อเล็กๆ ในสันหลังต้องทำงานหนักเป็นสองเท่าจากที่ควรจะเป็น เพราะกล้ามเนื้อคอส่วนหนึ่ง ไม่สามารถประคับประคองให้กระดูกสันหลังอยู่ในท่านี้ได้ และต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อรักษาศีรษะให้อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ค่อยดีนี้ มันจึงโอเวอร์โหลด และส่งผลให้เกิดอาการปวดหลายอย่างเกิดขึ้น



ปรับพฤติกรรมบรรเทาอาการ ปวดคอและไหล่
สำหรับการปวดคอและไหล่ที่เกิดจากการวางท่าทางที่ไม่เหมาะสม ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่รับน้ำหนักของศีรษะเป็นเวลานาน จนทำให้กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง และนำไปสู่อาการเจ็บปวด การปรับท่าทางและพฤติกรรมในการทำงาน สามารถช่วยคุณบรรเทาอาการเจ็บปวดนี้ได้ และนี่คือวิธีการ

ใช้ท่าทางให้ถูกต้อง  เวลายืนหรือนั่ง ให้แน่ใจว่าไหล่ของคุณเป็นเส้นตรง และอยู่ในแนวเดียวกับสะโพก ส่วนหูก็อยู่ตรงกับไหล่ หากหูของคุณยื่นไปเกินช่วงไหล่ ก็แสดงว่าคุณกำลังยื่นหัวไปข้างหน้า ซึ่งเป็นท่าทางที่ผิด

ไม่นั่งนานเกิน 1-2 ชั่วโมง ถ้าต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ให้ลุกขึ้นยืน หรือยืดกล้ามเนื้อคอและไหล่เสียบ้าง หากเป็นไปได้ ไม่ควรนั่งอยู่กับที่เกิน 1-2 ชั่วโมง ให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย หรือลุกไปเข้าห้องน้ำ และจึงค่อยกลับมานั่งทำงานต่อ

อย่านั่งต่ำเกินไป มันสามารถทำให้เกิดการเกร็งกล้ามเนื้อไหล่ เนื่องจากต้องมีการยกไหล่ ขณะที่คุณยกมือเพื่อใช้เมาส์และคีย์บอร์ด ทำให้การไหลเวียนโลหิตไปยังเนื่อเยื่อลดลง นำไปสู่อาการอ่อนล้าและรู้สึกไม่สบาย การนั่งต่ำเกินไปยังทำให้คุณต้องเงยหน้าขึ้นมองจอ ทำให้ปวดคอ ให้แน่ใจว่าคุณนั่งในระดับความสูงที่พอดีกับโต๊ะและจอของคุณ

ปรับเก้าอี้ ให้คุณสามารถวางเท้าราบกับพื้นได้พอดีๆ ถ้าเป็นไปได้ ควรใช้เก้าอี้ที่ออกมาแบบมาเพื่อสรีระในการทำงานโดยเฉพาะ ที่จะช่วยให้กระดูกสันหลัง อยู่ในรูปทรงโค้งตามธรรมชาติอย่างเหมาะสมเวลานั่ง

จัดตำแหน่งคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม ควรใช้โต๊ะที่ออกแบบมาสำหรับใช้คอมพิวเตอร์ และวางให้จอคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับสายตา หรือต่ำกว่าเล็กน้อย ส่วนคียบอร์ดและเมาส์ อยู่ในระดับที่คุณสารถวางข้อศอกอยู่ข้างตัวแบบสบายๆ แขนส่วนล่างควรขนานกับพื้น และอยู่ในระดับเดียวกับคีย์บอร์ด

พยายามอย่าถือโทรศัพท์นาน หากต้องคุยธุระทางโทรศัพท์หลายชั่วโมง ให้ใช้หูฟัง เพราะการถือโทรศัพท์ค้างไว้นานๆ จะเพิ่มอาการปวดคอและไหล่ได้

ไม่แบกกระเป๋าหนัก ให้เคลียร์ของที่ไม่จำเป็นออกจากกระเป๋า เพราะการแบกกระเป๋าที่มีน้ำหนักมากทุกๆ วัน จะทำให้อาการปวดคอและไหล่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

เมื่อไหร่ที่ควรต้องไปหาหมอ
ถ้ามีอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่มากๆ ก็ควรปรึกษาหมอ นอกจากนี้หากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย คุณควรรีบไปพบหมอเป็นการด่วน

อาการปวดคอแล่นลงมาสู่แขนและขา

มีอาการปวดหัว อาการชา เป็นเหน็บ สมัคร ufabet
หรือกลามเนื้ออ่อนแรงร่วมกับอาการเจ็บปวด

มีอาการคอแข็ง พร้อมกับมีไข้ อาเจียน และระคายเคืองจากการรบกวนของแสงอย่างหนัก


http://gogo789789.over-blog.com/2018/11/manchester-united-review-security-after-intruder-smuggled-toy-guns-into-game-as-united-is-charged-by-uefa.html
http://gogo789789.over-blog.com/2018/11/.html
http://gogo789789.over-blog.com/2018/11/-3.html
http://gogo789789.over-blog.com/2018/11/wilfried-zaha-and-jesse-lingard-thank-ea-for-finally-updating-fifa-19-haircuts.html
http://gogo789789.over-blog.com/2018/11/ufabet-ufabet.html

หน้า: [1]